13 วิธีเช็กรถมือสอง ซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง?

รวมวิธีเช็กรถมือสอง ซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง?

เลือกอ่านเนื้อหาตามหัวข้อ

การซื้อรถมือสองมีจุดเด่นตรงที่เป็นรถราคาไม่แพง ช่วยให้เราได้รถสำหรับใช้งานได้ตามความต้องการในราคาสบายกระเป๋า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกซื้อรถมือสองก็มีความเสี่ยงแฝงอยู่เช่นกัน ดังนั้นผู้ซื้อต้องรู้ก่อนว่าจะซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง เพื่อเป็นการป้องกันการได้รถมือสองที่ไม่มีคุณภาพ 

ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 13 วิธีดูรถมือสอง เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รถที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการ จะมีอะไรบ้างไปติดตามอ่านกัน

13 วิธีดูรถมือสอง ต้องเช็กอะไรบ้าง?

การเลือกซื้อรถมือสองนั้น ค่อนข้างต้องอาศัยการสังเกต รวมถึงศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ ให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่ารถที่เราซื้อนั้นสามารถใช้งานได้ดี ไม่เคยมีประวัติเสียหาย และสามารถตอบโจทย์การใช้งานตามที่ต้องการได้ สำหรับวิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง? มี 13 ข้อด้วยกันดังนี้

1. เอกสารและประวัติรถย้อนหลัง

วิธีเช็กรถมือสองอย่างแรกเลย คือ การดูเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับรถที่เราจะซื้อโดยละเอียด เพื่อเป็นการป้องกันการนำรถที่โดนโจรกรรมมาขาย หลังจากนั้นเช็กตัวเล่มทะเบียนรถยนต์ว่าตรงกับตัวถังหรือไม่ รวมทั้งเลขบนตัวถังจะต้องมีความชัดเจน ไม่มีร่องรอยของการแก้ไข จากนั้นให้ตรวจสอบเล่มทะเบียนรถยนต์ ตั้งแต่ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์, ปีที่เริ่มจดทะเบียน, ประวัติการเกิดอุบัติเหตุ, ประวัติการถูกน้ำท่วม, ประวัติการเปลี่ยนเครื่องยนต์ต่าง ๆ ไปจนถึงประวัติการเสียภาษี เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถมือสองที่เราซื้อนั้นมีประวัติขาวสะอาด ไม่ได้ผ่านการโจรกรรม หรือเคยมีประวัติที่ผิดกฎหมาย

2. ตัวถังรถ 

ตัวถังรถ ถือว่าเป็นวิธีดูรถมือสอง ที่เราจะเห็นได้ง่ายที่สุด และสามารถสังเกตผ่านตาเปล่าได้โดยทันที วิธีเช็กรถมือสองในส่วนของตัวถังรถควรเริ่มจากเช็กรูปทรงของตัวถังว่ามีความผิดปกติหรือไม่ มีร่องรอยผ่านการซ่อมแซม หรือมีสนิมเกาะมากน้อยแค่ไหน เพราะรอยสนิมอาจบ่งบอกถึงสภาพการใช้งานหนัก และอาจเคยผ่านการถูกน้ำท่วมมาแล้ว 

3. ตะเข็บรอบตัวถังรถ

วิธีดูรถมือสอง อีกจุดสำคัญก็คือตะเข็บรอบตัวถัง ถือว่าเป็นจุดที่มักมีการซ่อมแซมในรถที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ เนื่องจากตะเข็บรถมีหน้าที่ในการยึดติดตัวถังรถและส่วนอื่น ๆ เข้าไว้ด้วยกัน วิธีตรวจสอบทำได้โดยสำรวจว่าตะเข็บรอบตัวรถทั้งหมดยังอยู่ในสภาพดี รอยตะเข็บมีความสม่ำเสมอเท่ากัน หากพบว่าตะเข็บส่วนไหนมีระยะห่างไม่สม่ำเสมอ อาจเป็นไปได้ว่ารถผ่านการซ่อมแซมที่ไม่ได้มาตรฐาน 

4. สภาพสีรถรอบคัน

การเช็กสภาพสีของรถเป็นอีกหนึ่งวิธีดูรถมือสอง สามารถทำได้ด้วยตาเปล่าง่าย ๆ โดยดูว่าเนื้อสีของรถมีความเงางามสม่ำเสมอเท่ากันทั่วทั้งคันหรือไม่ หากพบว่าสีของรถมีเฉดที่ต่างกันในบางจุด หรืออาจมีการไหลเยิ้ม เป็นไปได้ว่ารถผ่านการซ่อมแซมและทาสีมาใหม่ ๆ นอกจากนี้อีกวิธีในการเช็กสีรถคือ ให้ลองเคาะตัวรถเบา ๆ หากมีเสียงทึบ ๆ ก็เป็นไปได้ว่ารถผ่านการทำสีมาใหม่ 

5. เลขไมล์บนหน้าปัด

นอกจากการเช็กบริเวณภายนอกรถแล้ว การดูเลขไมล์บนหน้าปัดก็เป็นอีกวิธีเลือกรถมือสองเช่นกัน เนื่องจากเลขไมล์เป็นตัวบ่งบอกถึงการใช้งานของรถ ซึ่งวิธีดูก็คือถ้าเลขไมล์มีจำนวนที่ต่ำจนเกินไปเมื่อเทียบกับสภาพของรถ ก็เป็นไปได้ว่ามีการตกแต่งเลขไมล์ นอกจากนี้อย่าลืมที่จะเปรียบเทียบเลขไมล์บนหน้าปัดว่าตรงกับเอกสารประวัติการซ่อมบำรุงหรือไม่

6. พวงมาลัย

การเช็กรถมือสองก่อนซื้อ ผู้ซื้อควรทดลองขับเพื่อดูการทำงานของพวงมาลัยรถยนต์ หากระหว่างที่ทดลองขับ พบว่าพวงมาลัยมีอาการฝืดหรือค้างในระหว่างขับขี่ จนทำให้จังหวะเข้าโค้งทำได้ไม่เต็มที่ อาจเกิดจากระบบเครื่องยนต์มีปัญหานั่นเอง

7. เลขตัวถังรถ

สำหรับการเช็กเลขตัวถังรถนั้น จะเป็นขั้นตอนที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่ารถยนต์คันนี้ได้ถูกโจรกรรม หรือมีการดัดแปลงมาหรือไม่ ซึ่งวิธีการเช็กคือ ให้ดูว่าเลขตัวถังจะต้องมีความชัดเจน ไม่มีร่องรอยของการดัดแปลงแก้ไข และที่สำคัญจะต้องตรงกับเล่มทะเบียนรถ

กำลังตรวจเช็กรถยนต์มือสอง

8. เครื่องยนต์ ของเหลว และแบตเตอรี่

อีกส่วนสำคัญของการเช็กรถมือสองก่อนซื้อ คือส่วนที่เป็นเครื่องยนต์ ของเหลว และแบตเตอรี่ อันเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของรถยนต์ ซึ่งวิธีเช็กเครื่องยนต์คือให้ทำการลองสตาร์ตเครื่องยนต์ จากนั้นให้สังเกตว่าระหว่างที่สตาร์ตเครื่องมีกลิ่นไหม้ หรือมีเสียงผิดปกติหรือไม่ หากพบอาการดังกล่าวเป็นไปได้ว่าเครื่องยนต์ของรถมีปัญหา

ส่วนการเช็กของเหลว ให้ดูว่าปริมาณของเหลวในรถยนต์อยู่ในระดับที่เหมาะสมและมีการรั่วซึมหรือไม่ โดยเฉพาะน้ำมันต่าง ๆ เช่น น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ และน้ำมันเครื่องในรถยนต์ จะต้องมีสีใส ไม่ขุ่นดำ รวมถึงน้ำในหม้อน้ำจะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม

ในส่วนของแบตเตอรี่ ให้สังเกตจากเสียงในจังหวะที่บิดกุญแจสตาร์ตรถ ว่ามีเสียงการทำงานเป็นปกติไหม หากเกิดอาการสตาร์ตไม่ติดหรือสตาร์ตติดช้า อาจเป็นเพราะแบตเตอรี่กำลังเสื่อมสภาพ 

9. ระบบเกียร์

การเช็กระบบเกียร์ เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของวิธีเลือกรถมือสอง เพื่อความพร้อมในการทำงานของรถยนต์ โดยวิธีการเช็กระบบเกียร์เริ่มจากการเข้าเกียร์ D แล้วสังเกตว่ารถสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ปกติ, ต่อมาเข้าเกียร์ R แล้วรถสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหลังได้ปกติ, มีอาการกระตุกหรือมีเสียงเฟืองเกียร์หอนหรือไม่ หากพบว่ารถมีอาการเหล่านี้ ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเกียร์มีความบกพร่อง 

10. ช่วงล่างและยางรถยนต์

ถ้าให้พูดถึงซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง อีกส่วนที่ละเลยไม่ได้เลยคือช่วงล่างและยางรถยนต์ เพราะเป็นส่วนที่นอกจากจะใช้ขับเคลื่อนรถ ยังเป็นส่วนช่วยสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ 

โดยการเช็กระบบช่วงล่างคือ การทดสอบระบบโช๊คอัพและระบบสั่นสะเทือน ด้วยวิธีการกดที่มุมรถทั้ง 4 ด้าน หากพบว่าเมื่อกดแล้วรถไม่คืนตัว หรือมีอาการส่ายไปมา เป็นสัญญาณว่ารถกำลังมีปัญหาช่วงล่าง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายระหว่างขับขี่ได้

สำหรับการเช็กยางว่ามีสภาพที่พร้อมขับขี่ไหม สามารถทำได้โดยนำเหรียญบาทไปวางที่บริเวณดอกยาง หากพบว่าเห็นลายของเหรียญบนดอกยางชัดเจน แสดงว่ายางรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพ

11. ระบบไฟ/แอร์

นอกจากเช็กการทำงานของเครื่องยนต์ต่าง ๆ แล้ว ระบบไฟ/แอร์ก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องเช็กก่อนจะซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง เพราะสิ่งเหล่านี้ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น 

โดยการเช็กระบบไฟ ให้ตรวจสอบว่าไฟต่าง ๆ ของรถยนต์ทำงานทุกดวง เช่น ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน ไฟคู่หน้า และไฟคู่ท้าย ไม่มีดวงไหนขาดหรือมีไฟหรี่จนเกินไป  

ส่วนระบบแอร์ ควรสังเกตในระหว่างที่สตาร์ตเครื่อง ว่าแอร์สามารถทำความเย็นได้ดีหรือไม่ มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นอับรบกวนระหว่างขับขี่ไหม

12. นอต

ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญในการเช็กรถมือสองก่อนซื้อ โดยตรวจสอบว่าในแต่ละจุดของนอตมีการหมุนแน่นหนา ไม่มีร่องรอยการถอดนอตออกมา หรือมีการหมุนเกลียวไม่แน่น เพราะหากนอตแม้แต่ตัวเดียวมีรอยหมุนหรือถูกถอดออก อาจเป็นไปได้ว่ารถเคยผ่านการซ่อมแซมหนักมาก่อน

13. ระบบขับขี่

นอกจากการเช็กรถผ่านการสังเกตแล้ว การทดลองขับก็เป็นอีกวิธีเช็กรถมือสองที่จำเป็น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบขับขี่ต่าง ๆ ของรถสามารถทำงานได้ดี มีความปลอดภัยเมื่อขับออกถนน โดยจะต้องเช็กตั้งแต่การสตาร์ตรถ เมื่อบิดกุญแจแล้วสตาร์ตติดทันทีไหม นอกจากนี้ยังต้องเช็กระบบอื่น ๆ เช่น ช่วงล่างเมื่อขับแล้วสามารถเข้าโค้งได้ดี, ระบบเกียร์และเครื่องยนต์ ไม่มีอาการกระตุกระหว่างขับ, ยางสามารถยึดเกาะถนนได้ดี, ระบบเบรกสามารถหยุดรถได้นิ่งสนิท เบรกแล้วรถไม่ปัด เป็นต้น

โดยสรุปจากข้อสงสัยของหลาย ๆ คนว่าการจะซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้างนั้น พูดแบบภาพรวมคือต้องดูแทบทุกส่วนของรถ เพียงแต่ต้องดูแต่ละส่วนให้เป็น รวมถึงการเช็กประวัติการใช้รถในเล่มทะเบียน เพราะหากละเลยซื้อรถมือสองโดยไม่ตรวจเช็กอาจทำให้รถที่ได้ไม่มีคุณภาพ ใช้งานได้ไม่เต็มที่ หรือร้ายแรงถึงขนาดได้รถที่ผิดกฎหมาย มีประวัติโจรกรรมพ่วงติดมาด้วย

ซึ่งหากใครกำลังมองหารถมือสองที่มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพของรถ ขอแนะนำ Drive Sure ศูนย์รวมรถมือสองคุณภาพดี มีรถให้เลือกหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า ฮอนด้า และรถนิสสันมือสอง ที่มีให้เลือกตามความต้องการ ในราคาที่เข้าถึงง่าย รวมถึงมีฟีเจอร์ช่วยค้นหารถที่ใช่เพียงไม่กี่คลิก เพื่อให้คุณได้รถไปใช้งานได้ตรงใจที่สุด

แนะนำบทความอื่นๆ

ข้อมูลน่ารู้

ซื้อรถยนต์มือสอง ที่ไหนดี รวม 9 เว็บขายรถมือสอง

ข้อมูลน่ารู้

13 วิธีเช็กรถมือสอง ซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง?

ข้อมูลน่ารู้

การโอนรถเปลี่ยนเจ้าของ มีขั้นตอน เอกสารอะไรบ้าง

โปรโมชัน

โปรโมชันผู้ซื้อ Lorem Ipsum คืออะไร ทำไมจึงต้องนำมาใช้?

13 วิธีเช็กรถมือสอง ซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง?
สภาพรถยนต์
นัดทดลองขับ